บทความที่แล้ว เราก็ได้ทราบกันแล้วว่า Google Cardboard คืออะไร มีหน้าตาแบบไหน และความแตกต่างระหว่าง V.1 และ V.2 มีอะไรบ้าง บทความนี้เราก็มี VR Headset อีกตัวมาแนะนำกัน ซึ่งก็คือ VR One นั่นเอง
VR One เป็น VR Headset จากบริษัทผลิตเลนส์กล้องของเยอรมันอย่าง Carl Zeiss ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับด้านการผลิตกล้องและเลนส์มานานกว่า 100 ปี มีทั้งเลนส์ SLR และ CSC ซึ่งเลนส์ของ Zeiss ใช้กับกล้องของ Sony
เป็นหลัก ภาพที่ได้จะมีความคมชัด คอนทราสต์สูง สีสันสมจริง ราคาเลนส์ก็มีตั้งแต่ 3 หมื่นบาทขึ้นไป ราคาอาจจะสูงไปหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับภาพที่ได้นะ
VR One มีดีไซน์ที่ค่อนข้างโดดเด่น แบบ Minimal และ Futuristic ดูแข็งแรงและมีคุณภาพสูงมาก ไม่บอบบอง น้ำหนักพอดีมือ ส่วนประกอบหลัก ๆ คือ
- ตัว Headset เป็นพลาสติกสีขาว ด้านหน้าเป็นสีดำเงา โปร่งแสง เหมาะกับแอปพลิเคชันแบบ Augmented Reality ด้วย
- โฟมที่รองรับอยู่ด้านหลัง ทำให้เราใส่ได้สบายมากขึ้น
- สายรัดศีรษะยางยืด สวมใส่สบาย สามารถปรับขนาดและถอดออกได้หากไม่ใช้
- “Tray” ถาดสำหรับใส่โทรศัพท์มือถือ
- เลนส์ มีมุมมองของภาพ (FOV) ถึง 100 องศา
การใช้งานก็ไม่ยาก แค่นำโทรศัพท์มือถือใส่เข้าไปในถาด แล้วสไลด์เข้าไปในช่องด้านข้างของ Headset มั่นใจได้เลยว่า โทรศัพท์มือถือไม่หล่นแน่นอน เหมาะสำหรับโทรศัพท์ที่มีขนาดหน้าจอไม่เกิน 5.2 นิ้ว และสามารถซื้อถาดแยกได้ โดยจะมีขนาดเฉพาะรุ่นที่ได้รับความนิยม เช่น iPhone 6, Samsung Galaxy S5, Samsung Galaxy S6 ส่วนโทรศัพท์มือถือ
รุ่นอื่น ๆ เช่น LG G3 จะมีไฟล์สำหรับเครื่องพรินต์ 3 มิติให้โหลดแทน
ใส่โทรศัพท์มือถือเข้าไปในถาด แล้วสไลด์เข้าไปในช่องด้านข้างของ Headset
อยู่ใน Headset ขนาดนี้ โทรศัพท์ไม่มีหล่นแน่นอน
สำคัญเมื่อใส่โทรศัพท์มือถือเข้าไปแล้ว จะไม่บังกล้องหน้าของโทรศัพท์ที่ต้องใช้ในบางแอปพลิเคชัน และเราสามารถ
ใส่แว่นตาไปพร้อม ๆ กับใส่ Headset ได้ด้วย เป็นคุณสมบัติพิเศษของ VR One เลย เพราะ Headset ตัวอื่นทำไม่ได้
ใส่แว่นไปพร้อมกับใส่ Headset ได้ด้วย
ในเรื่องของเสียงอาจจะมีปัญหานิดหน่อย เนื่องจากโทรศัพท์มือถือต้องเข้าไปอยู่ในตัว Headset ทำให้อาจจะบังเสียงจากลำโพงของโทรศัพท์มือถือ แต่ก็ยังพอได้ยินอยู่ แค่อาจจะไม่ชัดเจน ถ้าเราอยากสัมผัสประสบการณ์แบบเต็มที่ ก็สามารถต่อหูฟังจากด้านข้างของ Headset ที่จะมีช่องสำหรับต่อหูฟังและสายชาร์ตโทรศัพท์ให้แทน
ช่องสำหรับต่อหูฟังและสายชาร์ตโทรศัพท์มือถือ
ส่วนการระบายความร้อน VR One มีระบบระบายอากาศ เพื่อป้องกันการเกิดไอน้ำบนเลนส์ แต่เพราะโทรศัพท์มือถือต้องอยู่ด้านใน Headset อย่างที่กล่าวไว้ ทำให้อาจจะมีความร้อนสะสมเกิดขึ้นบ้าง เมื่อเล่นไปสักพัก จึงแนะนำว่าควรพักโทรศัพท์มือถือหรือมีโทรศัพท์สำรองเปลี่ยนสลับกัน ถ้าต้องการใช้นาน ๆ นะคะ
เวลาต้องการจะแตะหน้าจอ ไม่ว่าจะเพิ่มหรือลดเสียง หรือเปลี่ยนแอปพลิเคชัน ต้องถอด Headset ออกก่อน เนื่องจากไม่มี Input Button
การใช้ VR One อาจจะต้องคอยระวังไม่ให้ฝุ่นเข้าไปด้านใน เพราะเลนส์ในส่วนด้านหน้ามีช่องให้ทำความสะอาดเล็กมาก ทำให้ทำความสะอาดได้ยาก
ส่วนเรื่องราคานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 120 ดอลลาร์สหรัฐ โดยอ้างอิงจาก http://zeissvrone.tumblr.com/ ใครที่กำลังมองหา VR Headset ดีไซน์สวย ๆ ที่เปี่ยมคุณภาพ VR One ก็น่าลองนะคะ และที่สำคัญสำหรับ VR One เวอร์ชันใหม่ที่เปิดให้สั่งซื้อกันล่วงหน้าแล้ว รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับ Google Cardboard ด้วย ส่วนคนที่อยากได้ไว้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน ตอนนี้ VR One ก็มี SDK สำหรับการพัฒนาให้โหลดไปลองเล่นกันได้แล้วนะ ใครที่สนใจสามารถ
สั่งซื้อได้ที่ http://zeissvrone.tumblr.com/
ส่วนบทความต่อไปเราจะพาไปรู้จักกับ VR Headset ตัวไหน ต้องลองติดตามกันดูนะคะ
Leave a Reply